กวนอิ่นจื่อสอนธนู
มีชายผู้หนึ่งชื่อเลี่ยจื่อได้ไปเรียนวิชายิงธนูกับกวนอิ่นจื่อ ครั้งหนึ่งเขายิงธนูถูกเป้า
พอดี จึงรีบไปเล่าให้กวนอิ่นจือผู้เป็นอาจารย์ฟังแล้วกล่าวว่า " การเรียนของข้าพเจ้า
พอจะใช้ได้แล้วกระมัง"
กวนอิ่นจื่อจึงถามเขาว่า "เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเจ้าจึงยิงถูกเป้า?"
เลี่ยจื่อตอบว่า " ข้าพเจ้าไม่ทราบ" กวนอิ่นจื่อจึงกล่าวว่า "เมื่อเจ้าไม่รู้แล้ว
จะกล่าวได้อย่างไรว่าเรียนสำเร็จ
เมื่อได้คำตอบเช่นนั้น เลี่ยจื่อจึงก้มหน้าก้มตาพยายามเรียนต่อไปอีกเป็นเวลา
สามปี แล้วเขาก็ไปหาอาจารย์ขอคำแนะนำ
กวนอินจื่อผู้เป็นอาจารย์ก็ถามเขาอีกว่า "เจ้ารู้ว่าทำไมจึงยิงถูกเป้าแล้วหรือ
ยัง?"
เลี่ยจื่อตอบว่า "ข้าพเจ้าทราบแล้ว"
กวนอิ่นจื่อจึงบอกกับเขาว่า "ถ้าเช่นนั้นก็นับว่าใช้ได้ การเรียนยิงธนูนั้นจะยิง
ได้ขมังก็ต่อเมื่อเข้าใจว่าทำไมจึงยิงถูกเป้า เมื่อเจ้ารู้แล้วจงจดจำเหตุผลในการยิงถูกเป้าไว้
ให้แม่นยำอย่าไปฝืนกฎของมัน"
บันทึกใน "เลี่ยจื่อ"
จากหนังสือ ปรัชญาชีวิต ใน สุภาษิต จีน
จากหนังสือ " ปล่อยวางอย่างเซน "
ชีวิตเซนเป็นชีวิตที่ไม่มีอดีต
ไม่มีอนาคต มีอยู่แต่วันนี้
สปิริตแห่งเซน
สปิริตหรือจิตใจของเซน มีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร คำว่า
" ไม่ถอย-ไม่สู้, ไม่อยู่-ไม่หนี " เป็นคำอธิบายขยายความสปิริตแห่งเซนได้ดี
( แต่อ่านแล้วก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร ? )
ชีวิตเซนเป็นชีวิตที่ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีอยู่แต่วันนี้ หรือพูดให้
ลึก ชีวิตเซนคือชีวิตที่ดำรงอยู่ขณะเดียว ทีละขณะ ทีละขณะ เริ่มและ
จบในจุดเดียว (ท่านเขมานันทะเคยกล่าวว่า "ชีวิตคุณมีอยู่เพียงขณะเดียว"
ใครที่ชอบโกอานหรือปริศนาธรรม เอาไปขบให้แตกว่าท่านหมายความว่าอะไร)
เมื่อทุกข์จงทุกข์ เมื่อสุขจงสุข มีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ อดีตก็ละ
ไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา (อดีตเมื่อ 10 ปี 5 ปี ฯลฯ จนอดีตเมื่อวินาที
ที่แล้วต่างก็ผ่านเลยไปแล้วไม่หวนกลับ,และอนาคตเมื่อ 10 ปีข้างหน้า 5 ปี
ข้างหน้า ฯลฯ จนอนาคต "อีก 1 วินาทีข้างหน้า " ก็ยังไม่มา ) จงใช้ชิวิต
อยู่กับวันนี้ (ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ วินาทีนี้) ทำขณะนี้ให้ดี วันพรุ่งนี้มันจะ
ดูแลตัวของมันเองได้อย่ากังวลไปเลย.....จนแม้แต่ความเป็นความตายก็ไม่
สำคัญสำหรับเซน อยู่ที่จิตอันวิมุตติหลุดพ้นปล่อยวางธรรมทั้งปวงได้เป็นพอ
พระพุทธะ ได้ตรัสสาธกนิยายในพระสูตรให้หมู่พระภิกษุสงฆ์ฟัง.....
ชายคนหนึ่ง ขณะกำลังเดินทางข้ามท้องทุ่ง ก็ประจันหน้าเข้ากับ
เสือใหญ่ตัวหนึ่ง เขารีบวิ่งหนีโดยทันใดและเสือก็วิ่งไล่กวดตามเขาไป
พอถึงหน้าผาเขาก็โหนรากเถาวัลย์ป่าลงไปห้อยต่องแต่งอยู่ตรงขอบ
หน้าผานั้น ส่วนเสือก็วิ่งมาดมกลิ่นตามล่าเขาอยู่ข้างหน้าบนหน้าผานั่นเอง
และเมื่อชายคนนั้นมองลงไปข้างล่างเขาก็ต้องสั่นสะท้านด้วยความกลัว
โน่น เสืออีกตัวหนึ่งกำลังรอกินเขาอยู่หากเขาหล่นลงไป มีเพียงเถาวัลย์ป่า
เส้นนี้เท่านั้นที่ช่วยต่อชีวิตของเขาเอาไว้
หนู 2 ตัว ตัวหนึ่งขาวตัวหนึ่งดำ เริ่มเทะเถาวัลย์ป่าที่เขาโหนอยู่
ทีละน้อย ๆ ชายคนนั้น ( ในขณะที่กำลังโหนอยู่นั้น ) ก็เห็นลูกสตรอเบอรี
หวานฉ่ำห้อยอยู่ใกล้เขา เขาจึงโหนเถาวัลย์ป่าด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วน
มืออีกข้างหนึ่งก็เอื้อมไปเด็ดลูกสตรอเบอรีส่งเข้าปาก โอ มันช่างหวาน
อะไรเช่นนั้น !
ชีวิตคุณมีอยู่เพียงขณะเดียว อดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด " ไม่ถอย-ไม่สู้, ไม่อยู่-ไม่หนี